วันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ถั่วฝักยาว การปลูกและประโยชน์


ถั่วฝักยาว หรือชื่อวิทยาศาตร์ Vignaunguiculata subsp.Sesquipedalis เป็นถั่วชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นไม้เลื่อย ลำต้นเป็นเถาเลื้อยที่แข็งและเหนียว เถามีสีเขียว อ่อนลำต้นม้วนพันสิ่งยึดเกาะได้ดี ส่วนใบเป็นใบประกอบแบบฝ่ามือ มี 3 ใบย่อยรูปสามเหลี่ยมยาว 6-10 เซนติเมตร และมีดอกเป็นช่อดอกออกตามซอกใบกลียดอกมีสีขาว หรือสีน้ำเงินอ่อนฝักเป็นฝักกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-1 เซนติเมตร ยาว 20-60 เซนติเมตร ในฝักจะมีเมล็ดอยู่จำนวนหนึ่งเป็นพืชที่เติบโตได้ดีชอบอากาศร้อน มีแสงแดดตลอดทั้งวัน และมีปริมาณ ฝนตกน้อยจึงสามารถเพาะปลูกได้ทุกฤดูกาลตลอดทั้งปี

การเตรียมดิน เริ่มจากการไถพรวนดินลึก 20 -30 เซนติเมตร ใส่ปูนขาวหรือปุ๋ยคอก ตากแดดไว้สักราว 14 วัน จากนั้นจึงไถคราดใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักรองพื้น อัตราตารางเมตรละ 5 กิโลกรัม หรือ 2 ต้น/ไร่ เพื่อปรับปรุงโครงสร้างของดินให้ดีขึ้น จากนั้นใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 30 กิโลกรัม / ไร่ แล้วเตรียมแปลงปลูกขนาดกว้าง 1-1.20 เมตร x ความยาวตามพื้นที่ x สูง 15-20 เซนติเมตร เกลี่ยหน้าแปลงให้เสมอกัน

วิธีปลูก ขุดหลุมระยะห่างระหว่างหลุม 50 เซนติเมตร ระยะห่างแถว 70-100 เซนติเมตร ก่อนหยอดเมล็ดถั่วฝักยาวหลุมละ 3 เมล็ดแล้วกลบเมล็ดด้วยแกลบหรือปุ๋ยคอก 2-3 กำมือ / หลุม จากนั้นทำค้าง โดยนำไม้ค้าง ปักหลุมๆละ 1 อัน สูง 2-2.50 เมตร ปักเอียงเข้าหากึ่งกลางเป็นคู่ๆ แล้วมัดเข้าด้วยกันแล้วใช้ไม้ค้างพาดกลางมัดยึดอีกทีหนึ่งก่อนคลุมด้วยตาข่าย หลังปลูกได้ 7-15 วัน เมื่อเริ่มมีใบ 2-3 ใบให้เลือกต้นสมบูรณ์ ไว้ 2 ต้น/หลุม ซึ่งต้นถั่วจะเริ่มพันค้างในเวลา 15-20 วันหรือหากต้องการปลูก ในกระถาง ให้เตรียมส่วนผสมของดินปลูกในกระถาง เช่น ขี้เถ้าแกลบ ดินร่วน ทรายหยาบ ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก มาผสมให้เข้ากันและพรมน้ำให้ชื้นค่อนข้างมากแต่ไม่ถึงขั้นชื้นแฉะ จากนั้นหยอดเมล็ดถั่วในกระถาง ๆ ละ 5เมล็ดห่างเท่าๆกันกดเมล็ดให้จมลงในดินลึกประมาณ 1 นิ้ว แล้วปักไม้ทำค้างความยาว ประมาณ 2 เมตร ในกระถาง

ถั่วฝักยาวมีโปรตีน วิตามินเอ ไทอามีน ไรโบฟลาวิน เหล็ก ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม นอกจากนั้นยังมีวิตามินซี โฟเลต แมกนีเซียม และแมงกานีส ถั่วฝักยาวปริมาณ 100 กรัมมีพลังงาน 47 แคลอรี ไม่มีไขมันและคอเลสเทอรอล โซเดียม 4 mg คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด 8 g และโปรตีน 3 g วิตามินเอ 17%  เหล็ก 2%  วิตามินซี 31%  และแคลเซียม 5% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน  จึงนับได้ว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากที่เดียว

เมนูจากถั่วฝักยาว ก็ทำได้หลากหลาย ทั้งกินดิบกินสุก จิ้มน้ำพริก แกงส้ม เจียวไข่ อีกสาระพัดเมนู

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิธีกำจัดมด โดยไม่ใช้เคมี

วิธีไล่มดโดยไม่ใช้สารเคมี 1   พริก เป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ไล่มดได้ สรรพคุณ : ไล่ มด เพลี้ยอ่อน หนอนผีเสื้อกะหล่ำ ไวรัส ด้วงงวงช้าง แมลง...